มีใครเป็นเจ้าของ แฟรนไชส์ 7-11 บ้างครับ เเล้วประสบความสำเร็จมั้ย อยากจะถามเป็นความรู้หน่อยครับ
- รายได้ต่อเดือนที่จะได้รับเท่าไหร่ครับถ้าหักค่าใช้จ่ายออกทั้งหมดขึ้นอยู่กะว่าคุณลงทุน typeไหน ที่ว่า เหลือ 100000 - 150000 น่าจะเป็น type C ลงทุนประมาณ 3 ล้านถ้าเป็น type B ลงทุนล้านกว่าบาท ก็เหลือเดือน 4 - 5 หมื่นบาท แต่มันก็ไม่เสมอไปขึ้นกับคุณคุมค่าใช้จ่ายได้ดีแค่ไหน . ค่าจ้าง คุณจ้างพนักงานให้เงินเดือนเท่าไหร่ จ้างถูกไม่มีคนอยากทำนะคับ แต่จ้างเท่า ซึพึก็ไม่ได้คับ จ่ายไม่ไหว ของเค้า โบนัสทุก ๆสามเดือน แถมโบนัสใหญ่ปีละครั้ง ทุกวันนี้ค่าแรงสามร้อย พนักงานก็เดือนเก้าพัน ยังไม่นับผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ที่ต้องจ้างแพงกว่าอีกอย่างน้อยร้านละ สามคนนะคับ. ตัดจ่าย คุณคุ้มเรื่องสินค้าหมดอายุได้ดีไหม คุณสั่งน้อยไม่ได้นะคับ ซึพึไม่ยอม เค้าว่าเสียโอกาสการขาย ร้านเพื่อนผม โดนตัดจ่ายบางเดือน สาม หมื่น บางเดือนห้าหมื่น โดนบังคับให้สั่ง ขายไม่ดีก็ต้องสั่ง เพื่อให้มีความหลากหลาย นี่คือเหตุผลที่ ซีพีบอก ตัดจ่ายก็หักจากเงินคุณนั่นแหละคับ. ออดิต คือ สินค้าหายนั่นแหละคับ คุมได้ไหม บางร้านหายเดือนเป็นแสน เค้าก็หักเงินคุณเป็นแสนนะคับ มีเวลาไปเฝ้าเองบ้างไหมคับ เพราะลูกน้องดี ๆ หายากที่เค้าจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ไม่ได้มาจากลูกค้าหรือพนักงานขโมยอย่างเดียวนะคับ ของเข้าเช็คไม่ครบก็หาย พนักงานคิดเงินผิดก็หาย ของเสียไม่ลงตัดจ่ายก็หาย พวกทึมออดิตที่เข้ามานับตอนออดิตร้านนับผิดก็หาย มันหายตลอดขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อย บ้างร้านออดิตไม่เคยลดเลย ระดับ สามหมื่นสี่หมื่นทุกเดือนก็มี
- การบริหารการจัดการยากมั้ย เราต้องลงไปดูงานด้วยตัวเองบ่อยรึเปล่า. อันนี้สำคัญมันเป็นเงื่อนไขในการทำสัญญาอยู่แล้วว่าคุณต้องมีเวลาไปดูแลร้าน การจัดการเค้ามีระบบให้เราทำตามคับ สำคัญคุณมีคนงานจะมาทำให้ไหมล่ะ งานเซเว่นหนักนะคับ ทุกวันนี้หาพนักงานยาก คุณอาจจะได้อยู่ต่อผลัดแทนพนักงานที่ ลาออก ขาดงาน ลาป่วย ผมเคยอยู่ เช้า บ่าย ดึก ต่อกันมาแล้ว กลับบ้านก็เที่ยงของอีกวัน รอฝากเงินก่อน พนักงานไม่ครบตามโครงสร้างเค้าก็หักเงินครับ ไอ้ที่จะจ้างพนักงานตามใจเราหมดสิทธิ์เค้าจะกำหนดจำนวนมาให้ และก็ถ้ายอดขายเพิ่มคุณก็ต้องจ้างเพิ่ม คุณจ่ายค่าพนักงานเค้าไม่ได้จ่ายนะคับ แต่กำไรที่คุณทำทุกบาทเค้าแบ่งไปหมดเหลือค่าใช้จ่ายไว้ให้เรา การจัดการไม่ยากถ้ามีพนักงานดี ซึ่งยากมาก เข้าออกเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะผู้ช่วยหรือผู้จัดการถ้าขาดคุณอาจต้องเข้าไปทำเอง ตั้งแต่คิดเงิน ถูพื้น สั่งของ ทุกอย่างนั้นแหละ - มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมั้ยครับ พอดีสนใจอยากจะเปิดซัก 2-3 สาขาจะมีการประเมินผลงานคุณทุกหกเดือนให้คะแนนเป็น เกรด E G P และ F จะขยายร้านได้ต้องมีผลประเมินเกรด E สองรอบต่อกัน คะแนน QSI (คือคะแนนมาตรฐานร้านตอนเค้ามีเจ้าหน้าที่มาสุ่มตรวจ ซึ่งจะมาเดือนละครั้งไม่บอกล่วงหน้านะคับ ปัจจุบันมีเข้าซ้ำด้วยบางร้านเดือนนึงเจอสองรอบ) คะแนนต้องไม่ต่ำกว่า 90 คะแนน 4 เดือนติดกัน และไม่ได้ขึ้นอยู่ที่คุณต่อให้ผลงานได้ ถ้าเค้าไม่ให้ร้านคุณก็ไม่ได้ เค้าดูอย่างอื่นประกอบด้วยคับ โครงสร้างพนักงานแข็งไหม เจ้าของเอาใจใส่ดีรึเปล่า ปฏิบัติตามระเบียบของเค้าไหม ดื้อไหมหัวแข็งไหม ผู้จัดการฝ่ายที่มีหน้าที่อนุมัติร้านให้เค้าชอบคุณไหม อะไรทำนองนี้ แล้วมีร้านว่างจะปล่อยให้ไหม ทั้งหมดคือ คำตอบที่ผมไม่ได้ไปถามใครมา เพราะผมทำอยู่และกำลังจะเลิก เพราะค่าแรงขึ้นมันไม่ช่วยไรเราเลยให้เราแบกค่าจ้างที่สูงขึ้น มันนั่งกินกำไรที่เราหาให้สบาย สรุปสั้น ๆ ว่าถ้าคุณคิดว่าคุณเป็นคนที่ ได้น้อยดีกว่าไม่ได้ กำไรไม่เยอะดีกว่าทำเองแล้วขาดทุน ก็ลองทำดูคับ แต่การที่คิดว่าคนที่เค้าบอกว่าไม่ดี คือ คนที่ทำไม่ได้ ก็ไม่ใช่เสมอไป ผมคนนึงที่เคยคืดแบบนั้น เพื่อนห้ามก็ไม่ฟัง คิดว่าถ้าเราทำดี ๆ มันก็ต้องดีสิ ผมบริหารร้านได้เกรด E มาโดยตลอด ขอร้านเพิ่มก็ไม่ได้รอมาสามปีแล้ว ค่าแรงขึ้นก็ไม่ช่วยเรา ทนทำจนหมดสัญญาเลยเลิกทำ เอาเงินประกันไปทำอย่างอื่น เสียเงินไม่เท่าไหร่แต่เสียเวลามา 6 ปี นี่สิมันช้ำ
อีกคนพูด
ผมทำ มา 4 ปี เพิ่งเปิดร้านที่ 2 เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา
ข้อแนะนำข้อแรก คืออย่าทำ ใน กทม เพราะ 1. ค่าแรงที่สูงมาก 2. การเข้า- ออกงานบ่อย ทำให้ร้านประสบปัฯหาแรงงาน เป็นไปได้ก็ ทำในต่างจังหวัดดีกว่าครับ (ตัวผมทำต่างจังหวัด)
-- คุ้มมั้ย รายได้เท่าไหร่ คำว่าคุ้มคือเท่าไหร่ ครับ ?? ลงทุน 3.5 ล้าน อยากได้เดือนละ 3 แสน ไม่คุ้มแน่นอน !!! เพราะได้ไม่ถึง 555
คิดง่าย ๆ type c ยอดขายสินค้าเฉลี่ย / วัน 60000 สิ้นเดือนก็จะเหลือสุพธิ ประมาณ 5.5-6 หมื่น ในกรณีที่ควบคุมรายจ่ายได้ในระดับหนึ่งนะครับ ตัดจ่าย /ของหมดอายุ/ออดิต / ค่าไฟ
-- การบริหารยากมั้ย มันขึ้นอยู่กับว่า คุณบริหารคนเก่งแค่ไหนครับ ถ้ามี ผจก. พนักงาน ดี ซื่อสัตย์ คุณก็สบายหน่อย ในเนื้องานที่เค้ากำหนดมา ก็ทำตามเกณฑ์เฉย ๆ มันไม่ได้พิศดารหรือแปลกประหลาดตรงไหน แค่กำหนดมาตรฐาน มาให้ (รายละเอียดมีพอสมควร แต่ก็เห็นทำได้กันเยอะนะครับ)
ปัญหาที่เด่นชัดคือพนักงานครับ ขาด-ลา-เปลี่ยนงาน - ขโมย อันนี้ ต้องหาวิธีแก้ไข ค่อย ๆเรียนรู้ไป ก็ทำได้ครับ
-- เปิด 2-3 สาขา ทำได้มั้ย ก็เหมือนกะ คห.17 บอกครับ องค์ประกอบหลายอย่างครับ แต่ที่เน้น ๆ เลย คือมีร้านจะให้มั้ย นโยบาย cp คือ ให้มีร้าน เฟรนไชส์ กับ ร้านบริษัท ในอัตราส่วน 50-50 ซึ่ง ปัจจุบันเป็นร้านเฟรนไชส์เยอะ ทำให้การปล่อยร้านสาขาให้เฟรนไชส์จะยากขึ้น มองในมุมกลับกันครับ หากไม่ดี ทำไมคนที่ทำอยู่แล้วถึงอยากจะขยายสาขาครับ ?
ส่วนของหาย บอกยั่งงี้ดีกว่าครับ เกินเดือนละ 1.5-2 หมื่นนี่ ขโมยอยู่ในร้านแล้วละครับ (พนง) (หมายถึงที่ผมเจอนะ) เพื่อนเคยหายเดือนละ 3-4 หมื่นติดกันเกือบปี เพือนเลยมาปรึกษา เลยแนะนำไปว่า ติดกล้องวงจรปิดให้ทั่วร้านเลย ลงทุนเพิ่ม อีก5-6 หมื่น แล้วจับตาดู พนง บางคนโดยเฉพาะคนที่เพื่อนเกรงใจ หรือ พนง ที่ทุกคนในร้านเชื่อใจ เพื่อนลองไปทำดู ตอนนี้ ลดเหลือเดือนละไม่ถึง 5000 บาท ส่วนตัวผมทำร้าน ใน 1 ปี จะมีอยู่ 1 เดือนที่เกินหมื่น นอกนั้น ก็ไม่เกิน 5-6000 บางเดือนน้อย บางเดือนมากสลับๆ กันไป
อีกอย่างที่เห็นโพสกันบ่อยคือ พอขายดี แล้วจะมีร้านมาเปิดแข่งข้าง ๆ อันนี้จริงครับ ยอดขาย/ร้าน 100000 เค้าก็เริ่มมองหาทำเลแล้วครับ ซึ่งเป็นไปได้ที่เค้าจะเปิดร้านใกล้ ๆ ถามว่าเอาเปรียบมั้ย ตรงนี้ก็เอาเปรียบครับ แต่ !!! สาขาที่ขยายใหม่ เค้าจะให้สิทธิ์คุณเทคร้านเป็นคนแรกนะครับ (ในกรณีที่เจ้าของตึกไม่ทำ) คุณก็จะได้สิทธิ์ในการขายสาขาที่ 2 ได้เลย แต่คุณก็ต้องทำเกรดตามที่เค้ากำหนดได้ด้วยนะ
กรณีนี้ ถึงเราจะได้เปิดเป็นสาขา 2 บางท่านก็บอกว่า เราต้องเสียเงินเพิ่มอีกนะ ตั้ง 3 ล้าน มันก็จริงครับ แต่คุณก็ได้ร้านเพิ่มอีก 1 ซึ่งโดยมาก ถ้าได้ขยายสาขาแบบนี้ ปกติยอดไม่ตกลงมากจนน่าเกลียดหรอกครับ เช่น ร้านแรก ปกติ1 แสน พอเปิดร้านที่ 2 ขึ้นมาร้านแรก ก็จะลดเหลือ 7 หมื่น ส่วนร้าน 2 จะได้ประมาณ 5 หมื่น มันก็แปลกนะที่มันไม่หาร2 มันดันเพิ่มมากขึ้น (เท่าที่เห็นมานะครับ) ร้านแต่ละสาขา ใช้เวลาคืนทุน ประมาณ 5 ปี (ถ้าไม่บริหารห่วยมาก ไม่สนใจอะไรเลย) พีค ๆ ก็ 3 ปีกว่า ๆ แต่เรามีสัญา 10 ปี แถมสามารถต่สัญญาไปเรื่อย ๆ หากเราไม่ทำผิดกฏระเบียบของ บริษัท
มองอีกมุมดูครับ type เฟรนไชส์ได้ 54 % จากกำไรขั้นต้น cpall ได้ 46% หากมองในอีกมุม
cpall แบกรับ ภาระ การสร้าง โกดังเก็บสินค้า (รวมถึง พนักงานจัดของส่ง )
ส่งสินค้าให้ร้านสาขาทุกวัน
คัดเลือกสินค้าเข้ามาขาย
จัดโปรโมชั่น (ซื้อ1แถม1 -- แสตมป์ --ลดราคา ฯลฯ)
เจ้าหน้าที่มาดูแลให้ คำปรึกษา
ระบบส่งสินค้า
การฝึกอบรม พนง ในระดับต่าง ๆ
ค่าการตลาด โฆษณา สื่อต่าง ๆ
ส่วนนี้ไม่เห็นใครพูดกัน เห็นแต่ละคนบอก เอาเปรียบ ยั่งงั้นยั่งงี้ เอาเยอะเกินไป ต้องถามว่าเท่าไหร่ จะพอดีและเหมาะสม?
ข้อแนะนำข้อแรก คืออย่าทำ ใน กทม เพราะ 1. ค่าแรงที่สูงมาก 2. การเข้า- ออกงานบ่อย ทำให้ร้านประสบปัฯหาแรงงาน เป็นไปได้ก็ ทำในต่างจังหวัดดีกว่าครับ (ตัวผมทำต่างจังหวัด)
-- คุ้มมั้ย รายได้เท่าไหร่ คำว่าคุ้มคือเท่าไหร่ ครับ ?? ลงทุน 3.5 ล้าน อยากได้เดือนละ 3 แสน ไม่คุ้มแน่นอน !!! เพราะได้ไม่ถึง 555
คิดง่าย ๆ type c ยอดขายสินค้าเฉลี่ย / วัน 60000 สิ้นเดือนก็จะเหลือสุพธิ ประมาณ 5.5-6 หมื่น ในกรณีที่ควบคุมรายจ่ายได้ในระดับหนึ่งนะครับ ตัดจ่าย /ของหมดอายุ/ออดิต / ค่าไฟ
-- การบริหารยากมั้ย มันขึ้นอยู่กับว่า คุณบริหารคนเก่งแค่ไหนครับ ถ้ามี ผจก. พนักงาน ดี ซื่อสัตย์ คุณก็สบายหน่อย ในเนื้องานที่เค้ากำหนดมา ก็ทำตามเกณฑ์เฉย ๆ มันไม่ได้พิศดารหรือแปลกประหลาดตรงไหน แค่กำหนดมาตรฐาน มาให้ (รายละเอียดมีพอสมควร แต่ก็เห็นทำได้กันเยอะนะครับ)
ปัญหาที่เด่นชัดคือพนักงานครับ ขาด-ลา-เปลี่ยนงาน - ขโมย อันนี้ ต้องหาวิธีแก้ไข ค่อย ๆเรียนรู้ไป ก็ทำได้ครับ
-- เปิด 2-3 สาขา ทำได้มั้ย ก็เหมือนกะ คห.17 บอกครับ องค์ประกอบหลายอย่างครับ แต่ที่เน้น ๆ เลย คือมีร้านจะให้มั้ย นโยบาย cp คือ ให้มีร้าน เฟรนไชส์ กับ ร้านบริษัท ในอัตราส่วน 50-50 ซึ่ง ปัจจุบันเป็นร้านเฟรนไชส์เยอะ ทำให้การปล่อยร้านสาขาให้เฟรนไชส์จะยากขึ้น มองในมุมกลับกันครับ หากไม่ดี ทำไมคนที่ทำอยู่แล้วถึงอยากจะขยายสาขาครับ ?
ส่วนของหาย บอกยั่งงี้ดีกว่าครับ เกินเดือนละ 1.5-2 หมื่นนี่ ขโมยอยู่ในร้านแล้วละครับ (พนง) (หมายถึงที่ผมเจอนะ) เพื่อนเคยหายเดือนละ 3-4 หมื่นติดกันเกือบปี เพือนเลยมาปรึกษา เลยแนะนำไปว่า ติดกล้องวงจรปิดให้ทั่วร้านเลย ลงทุนเพิ่ม อีก5-6 หมื่น แล้วจับตาดู พนง บางคนโดยเฉพาะคนที่เพื่อนเกรงใจ หรือ พนง ที่ทุกคนในร้านเชื่อใจ เพื่อนลองไปทำดู ตอนนี้ ลดเหลือเดือนละไม่ถึง 5000 บาท ส่วนตัวผมทำร้าน ใน 1 ปี จะมีอยู่ 1 เดือนที่เกินหมื่น นอกนั้น ก็ไม่เกิน 5-6000 บางเดือนน้อย บางเดือนมากสลับๆ กันไป
อีกอย่างที่เห็นโพสกันบ่อยคือ พอขายดี แล้วจะมีร้านมาเปิดแข่งข้าง ๆ อันนี้จริงครับ ยอดขาย/ร้าน 100000 เค้าก็เริ่มมองหาทำเลแล้วครับ ซึ่งเป็นไปได้ที่เค้าจะเปิดร้านใกล้ ๆ ถามว่าเอาเปรียบมั้ย ตรงนี้ก็เอาเปรียบครับ แต่ !!! สาขาที่ขยายใหม่ เค้าจะให้สิทธิ์คุณเทคร้านเป็นคนแรกนะครับ (ในกรณีที่เจ้าของตึกไม่ทำ) คุณก็จะได้สิทธิ์ในการขายสาขาที่ 2 ได้เลย แต่คุณก็ต้องทำเกรดตามที่เค้ากำหนดได้ด้วยนะ
กรณีนี้ ถึงเราจะได้เปิดเป็นสาขา 2 บางท่านก็บอกว่า เราต้องเสียเงินเพิ่มอีกนะ ตั้ง 3 ล้าน มันก็จริงครับ แต่คุณก็ได้ร้านเพิ่มอีก 1 ซึ่งโดยมาก ถ้าได้ขยายสาขาแบบนี้ ปกติยอดไม่ตกลงมากจนน่าเกลียดหรอกครับ เช่น ร้านแรก ปกติ1 แสน พอเปิดร้านที่ 2 ขึ้นมาร้านแรก ก็จะลดเหลือ 7 หมื่น ส่วนร้าน 2 จะได้ประมาณ 5 หมื่น มันก็แปลกนะที่มันไม่หาร2 มันดันเพิ่มมากขึ้น (เท่าที่เห็นมานะครับ) ร้านแต่ละสาขา ใช้เวลาคืนทุน ประมาณ 5 ปี (ถ้าไม่บริหารห่วยมาก ไม่สนใจอะไรเลย) พีค ๆ ก็ 3 ปีกว่า ๆ แต่เรามีสัญา 10 ปี แถมสามารถต่สัญญาไปเรื่อย ๆ หากเราไม่ทำผิดกฏระเบียบของ บริษัท
มองอีกมุมดูครับ type เฟรนไชส์ได้ 54 % จากกำไรขั้นต้น cpall ได้ 46% หากมองในอีกมุม
cpall แบกรับ ภาระ การสร้าง โกดังเก็บสินค้า (รวมถึง พนักงานจัดของส่ง )
ส่งสินค้าให้ร้านสาขาทุกวัน
คัดเลือกสินค้าเข้ามาขาย
จัดโปรโมชั่น (ซื้อ1แถม1 -- แสตมป์ --ลดราคา ฯลฯ)
เจ้าหน้าที่มาดูแลให้ คำปรึกษา
ระบบส่งสินค้า
การฝึกอบรม พนง ในระดับต่าง ๆ
ค่าการตลาด โฆษณา สื่อต่าง ๆ
ส่วนนี้ไม่เห็นใครพูดกัน เห็นแต่ละคนบอก เอาเปรียบ ยั่งงั้นยั่งงี้ เอาเยอะเกินไป ต้องถามว่าเท่าไหร่ จะพอดีและเหมาะสม?
ที่มา:http://pantip.com/topic/31403893
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น